วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

list shopping in Egypt

Cairo

TVC IN EGYPT

Credit : youtube.com

PrintAD in Egypt


สิ่งมหัศจรรษ์ของอียิปต์

สฟิงซ์ของอียิปต์

มหาสฟิงซ์ และ พีระมิดคาเฟร ในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่าเป็นพันธุ์ที่เราเรียกว่า แอนโดรสฟิงซ์ (Andro-Sphinx) เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้ชัดเจน คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์โดยรอบ ว่ากันว่า สฟิงซ์ คือ รูปเหมือนขนาดใหญ่กว่าร่างจริงสองเท่าของฮาร์มาชิส เทพแห่งรุ่งอรุณ เมื่อตอนที่แปลงร่าง เป็นสิงโต มีเศียร เป็นฟาโรห์อียิปต์หรือ "sphingein" แปลว่า "การบีบรัด"

รูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) บริเวณใกล้กับพีระมิดคาเฟร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ หมู่เกาะพีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex) S

พีระมิดอียิปต์


หมู่พีระมิดแห่งกีซาพีระมิดในประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในพีระมิดที่เป็นที่รู้จักโดยมีหลายแห่งในประเทศอียิปต์ เป็นสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปต์โบราณสมัยก่อนยุคเหล็ก โดยเฉพาะ พีระมิดคูฟู ใน หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า นับเป็นสิ่งก่อสร้าง ขนาดใหญ่ที่สุด ที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการ ที่น่าอัศจรรย์ของอียิปต์โบราณ


หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex)





แผนผังหมู่พีระมิดแห่งกิซ่าพีระมิด (Pyramid) ใน ประเทศอียิปต์ มีมากมายหลายแห่งด้วยกัน แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดจนอาจนับเป็นตัวแทนของพีระมิดอียิปต์ทั้งมวล ได้แก่ หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex) ( 29°58′45.25″N, 31°08′03.75″E) ซึ่งประกอบไปด้วย



พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ มหาพีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza) ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า


พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงกลางของพีระมิดทั้ง 3 และสร้างอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีบางคนเข้าใจผิดว่าพีระมิดคาเฟรคือมหาพีระมิดแห่งกิซ่า ทางทิศตะวันออกของพีระมิดคาเฟรมี มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) หินแกะสลักขนาดมหึมาที่มักปรากฏในภาพถ่ายคู่กับพีระมิดคาเฟร


พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) ขนาดเล็กที่สุดและเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า จากตำแหน่งการก่อสร้างทำให้คาดได้ว่า เดิมอาจตั้งใจสร้างให้มีขนาดใกล้เคียงพีระมิดคูฟู และพีระมิดคาเฟรแต่ในที่สุดก็สร้างในขนาดที่เล็กกว่า พีระมิดเมนคูเรมักปรากฏในภาพถ่ายพร้อมกับหมู่พีระมิดราชินีทั้ง 3 (The Three Queen's Pyramids)

พีระมิดทั้งสามสร้างเรียงต่อกันเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกของกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน ด้วยโครงสร้างใหญ่โตและลักษณะรูปทรงเรขาคณิตเฉพาะตัว ทำให้สามารถสังเกตเห็นได้จากระยะไกล ท
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B9%8C






มัมมี่ (Mummy) คือศพที่ดองหรือแช่ในน้ำยาพิเศษในประเทศอียิปต์ พันทั่วทั้งร่างกายด้วยผ้าลินินสีขาว เพื่อเป็นการรักษาสภาพของศพเพื่อรอการกลับคืนร่างของวิญญาณผู้ตาย ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ คำว่า "มัมมี่" มาจากคำว่า "มัมมียะ" (Mummiya) ซึ่งเป็นคำในภาษาเปอร์เซีย มีความหมายถึงร่างของซากศพที่ถูกดองจนกลายเป็นสีดำ โดยชาวอียิปต์โบราณจะทำมัมมี่ของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ และนำไปฝังในลักษณะแนวนอนภายใต้พื้นแผ่นทรายของอียิปต์ อาศัยแรงลมที่พัดผ่านในแถบทะเลทรายอาระเบียและทะเลทรายในพื้นที่รอบบริเวณของอียิปต์ เพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยของซากศพที่อาบด้วยน้ำยา
ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตหลังความตาย เกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของวิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องมีการถนอมและรักษาสภาพของร่างเดิม โดยการแช่และดองด้วยน้ำยาบีทูมิน ซึ่งจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้ซากศพเน่าเปื่อยผุผังไปตามกาลเวลา
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%25

อาหารหลักของคนอียิปต์

อาหารหลักของคนอียิปต์
การกินอาหารของคนในตะวันออกกลางจะมีความแตกต่างมากกับคนในเอเชียเราและอาหารหลักของทุกชนชั้นของคนอียิปต์ นั้น คือ ขนมปัง หัวหอม พวกผักต่างๆ แล้วก็ปลาแห้ง นอกจากนี้ คนอียิปต์จะมีน้ำเชื่อมซึ่ง ทำจากผลไม้ อาทิเช่นพวก องุ่น เพื่อให้ได้รสหวานและจะกินกับขนปังซึ่งจะใช้ขนมปังจิ้มกับน้ำเชื่อม และนอกจากนั้น ยังมีการใช้ในน้ำผึ้ง เกลือ กระเทียม หัวหอม ในการปรุงรสให้อร่อยด้วย และนอกจากขนมปังแล้วเขาจะกินโยเกิตย์พร้อมๆกับเมนูอาหารหลักอีกด้วยส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์นี้ก็มี สัตว์ที่นิยมรับประทานก็คือพวก เนื้อแกะ แพะ และเนื้อวัว




อาหารประเภทกาบับ ( Kabab ) ก็เป็นเนื้อ หรือ แพะ ย่างโดยมีเหล็กแหลม เสียบชิ้นเนื้อโดยหมุนชิ้นเนื้อให้ไฟเลียไปทั่วๆ กินกับผักทั้งผักสดเช่น แตงกวา มะเขือเทศ ต้นหอม กับผักดองเช่น แตงกวา มะเขือเปาะ หัวหอม แครอท









อ้างอิง: http://www.igetweb.com/www/youngoasis/index.php?mo=3&art=407384

วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย

วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย
เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศที่มีผู้คนมากหมายต่างความเชื่อ ต่างวัฒนธรรมทำให้วัฒนธรรมการแต่งกายของคนอียิปต์มีความแตกต่างโดยมีพื้นฐานทางด้านความเชื่อ เช่นมุสลิม คริสต์เตียน ยิว และอื้นๆด้วยความเจริญของประเทศอียิปต์และเป็นประเทศที่ที่ทันสมัยและมีอิทธิผลของวัฒนธรรมตะวันตกมีการผสมผสานกับวัฒนธรรมตะวันตกอยู่บางมากหรือน้อยก็อยู่ที่เมืองที่มีความเจริญกับความไม่เจริญดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราสามารถพบเห็นมุสลีมะห์ที่ไม่คงความเป็นเอกหลักของเขาสุดแต่ทีจิตสำนึกและความปราถนาของแต่ละคน

สตรี
ผู้หญิงจำนวนมากในประเทศอียิปต์เป็นคนสวยเลยที่เดียว ผู้หญิงชาวอียิปต์เป็นคนที่ได้รับการศึกษาที่ดี เป็นคนทีใช้จ่ายเงินเก่ง การยึดมัยทะนุทะนอม และเอาใจใสจากที่ทีได้รับจากพ่อแม่ของเขาในอียิปต์ 85% จะเก็บตัวเองเป็นผู้หญิงพรมจารี (หญิงบริสุทธิ์)จนกว่าพวกเขาจะได้แต่งงานนีคือคนสามัญชนที่ดีเยี่ยมในตะวันออกกลาง ดังทีผู้ชายเชื่ออยู่เสมอว่านี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของศีลธรรมและผลของการกระทำที่ดี 90%ของผู้ชายปรารถนาผู้หญิงที่มีความบริสุทธิ์มาแต่งงานด้วย
ปัจจุบันนี้คุณจะเห็นได้ว่าผู้หญิงมากมายสวมผ้าโพกหัวหรือสะพายไหล่ของสตรีซึ่งคลุมเฉพาะศีรษะแต่เปิดเผยใบหน้า และก็มีบางกลุ่มที่ปิดหน้าเผยให้เห็นแต่ดวงตา นิกอบ[1]มันเป็นธรรมดาของทุกวันนี้ทุกวันนี้ผู้หญิงในอียิปต์จำนวนมากสวมผ้าคลุ่มหัวซึ่งเป็นการแสดงถึงความถ่อมตัวหรือมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนา

มันเป็นสิ่งสำคัญมากในอิสลามว่าผู้หญิงจะไม่ถูกล่อลวงไปทางคนแปลกหน้าและแสดงความถ่อมตน เราอาจจะเห็นว่ามันไม่ลำบากที่จะกำหนดมโนภาพของลัทธิให้ความเสมอภาคและการเมืองแก่ผู้หญิงทางตะวันตก ดังเช่นบทบาทของการดำเนินชีวิตซึ่งมีอยู่แต่กำเนิดจาก ค.ศ.1930-1939เป็นต้นผู้หญิงชาวอียิปต์ได้เริ่มเข้าไปทำธุรกิจ(การค้า)และอาชีพอื่นๆอีกมากมาย การเปลียนแปลงทางสังคมได้รับอิทธิผลของการปฏิวัติเดือน ก.ค. 1965 อียิปต์มีอัตราสูงมากของจำนวนผู้หญิงทีทำงานเช่น เป็นหมอ ทันตแพทย์ ทนายความ ศาสตราจารย์ รัฐมนตรี หรือข้าราชการระดับสูง


บุรุษ
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าความเจริญของตะวันตกได้กลืนความเป็นเอกหลักของคนในตะวันออกกลางและวัฒนธรรมการแต่งกายของคนอียิปต์ถึงไม่หมดไปแต่ตะวันตกก็ได้กลืนไปแล้วในบางส่วนรวมทั้งวัฒนธรรมการแต่งกายของผู้ชายอียิปต์ด้วย
ผู้ชายในชนบทของประเทศอียิปต์จะแต่งชุดโตบและจะสวมสารบานไว้บนหัวและคนที่มีอาชีพครูสอนศาสนาแต่คนในเมืองใหญ่เช่น เมืองงอเล็กซานเดรีย และเมืองไคโรผู้คนส่วนใหญ่จะสวมเสื่อเชิดกางแกงและรองเท้าหนังโดยเฉพาะคนที่ทำงานในงานบริการเช่น โรงแรมและธนาคารฯล ฯลฯ

ประเพณีวัฒนธรรม

ลักษณะของคนอียิปต์
โดยทั่วไปคนอียิปต์ที่มีการศึกษาดีสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้ และผู้เดินทางท่านใดที่สามารถพูดภาษาอาหรับแม้เพียงไม่กี่คำก็เอาตัวรอดได้ เนื่องจากคนพื้นเมืองโดยทั่วไปมีประเพณีการต้อนรับแขกมาตั้งแต่โบราณแล้ว
คนอียิปต์เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี คุ้นเคยต่อนักท่องเที่ยว กระตือรือร้นที่จะทักทายกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และมักจะยินดีที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอียิปต์ ในการสนทนา คนอียิปต์มักจะสบตากับคู่สนทนาเพื่อเป็นการให้เกียรติ และชอบใช้สัญลักษณ์ เช่นการใช้สัญญาณมือประกอบการอธิบายต่างๆ ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้แตกต่างจากสากล จึงควรที่จะเรียนรู้จากคนท้องถิ่นไว้บ้าง นอกจากนี้ สุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสตัวโดยเฉพาะจากเพศตรงข้าม และการโอบกอดในที่สาธารณะ
วันสำคัญของอียิปต์
วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นวันชาติ (Revolution Day) ของอียิปต์
วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นวันประกาศเอกราชจากอังกฤษ (เมื่อปี ค.ศ.1953)
เวลาทำงาน
- สถานที่ราชการส่วนใหญ่และธนาคารเปิดทำการระหว่างวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเวลา 08.30-15.00 น. แต่สถานที่ราชการบางแห่งจะเปิดทำการเฉพาะวันเสาร์-พุธ เวลา 08.30-14.00 น. ร้านค้าทั่วไปเปิดเวลา 10.00-22.00 น. สำหรับวันศุกร์เปิดสายกว่าวันอื่น เนื่องจากเป็นวันละหมาดประจำสัปดาห์
-ช่วง Ramadan (ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม) เป็นช่วงถือศีลอด หน่วยงานของอียิปต์ไม่สะดวกในการต้อนรับคณะมากนักหากนักท่องเที่ยวเดินทางมาอียิปต์ในช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสสภาพชีวิตของช่วงการถือศีลอดของชาวอียิปต์